เปรียบเทียบความแตกต่างโซล่าเซลล์ออนกริด (On-Grid) หรือ ออฟกริด (Off-Grid)

การเลือกใช้โซล่าเซลล์สำหรับบ้านหรือธุรกิจเป็นเรื่องที่น่าสนใจและสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ระบบ โซล่าเซลล์ออนกริด (On-Grid) หรือ ออฟกริด (Off-Grid) การทำความเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างสองระบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้ระบบที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ของคุณมากที่สุด

โซล่าเซลล์ออนกริด (On-Grid Solar System)

โซล่าเซลล์ออนกริด หรือระบบที่เชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้าหลักของการไฟฟ้า เป็นระบบที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน โดยระบบนี้จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และส่งไปยังบ้านหรือธุรกิจของคุณ ในขณะเดียวกันก็จะเชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าเพื่อดึงไฟฟ้ามาใช้ในช่วงที่แสงอาทิตย์ไม่เพียงพอหรือเมื่อระบบโซล่าเซลล์ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าเพียงพอ

ข้อดีของโซล่าเซลล์ออนกริด

  1. ลดค่าไฟฟ้า: ระบบออนกริดสามารถลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้ารายเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคุณสามารถใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แทนการซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้า
  2. ส่งไฟฟ้าคืน: หากระบบผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการ คุณสามารถส่งไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้การไฟฟ้าได้ ซึ่งบางประเทศหรือบางพื้นที่อาจมีนโยบายจ่ายเงินหรือให้เครดิตสำหรับไฟฟ้าที่ส่งคืน
  3. ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่: ระบบออนกริดไม่จำเป็นต้องติดตั้งแบตเตอรี่สำรอง เนื่องจากคุณยังสามารถใช้ไฟฟ้าจากสายส่งหลักได้เมื่อไม่มีการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ แต่ถ้าหากอยากเก็บพลังงานช่วงเช้าไว้ใช้ในช่วงกลางคืนก็ติดตั้งแบตเตอรี่ได้เช่นกัน

ข้อเสียของโซล่าเซลล์ออนกริด

  1. ไม่ทำงานเมื่อไฟดับ: ในกรณีที่สายส่งไฟฟ้าหลักดับ ระบบออนกริดจะไม่ทำงานเช่นกัน แม้ว่ามีแสงอาทิตย์เพียงพอสำหรับการผลิตไฟฟ้า ระบบยังต้องการการเชื่อมต่อกับไฟฟ้าหลักเพื่อทำงาน
  2. พึ่งพาสายส่งไฟฟ้า: ผู้ใช้ยังต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้าเมื่อมีความต้องการเกินกว่าการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์

โซล่าเซลล์ออฟกริด (Off-Grid Solar System)

โซล่าเซลล์ออฟกริด หรือระบบที่ไม่เชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้าหลัก เป็นระบบที่สามารถทำงานได้โดยอิสระ โดยมีการติดตั้งแบตเตอรี่เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ในช่วงกลางวันเพื่อใช้ในเวลากลางคืนหรือในช่วงที่แสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ

ข้อดีของโซล่าเซลล์ออฟกริด

  1. ไม่พึ่งพาการไฟฟ้า: ผู้ใช้ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากสายส่งหลักเลย ทำให้ไม่ต้องกังวลกับการขึ้นราคาไฟฟ้าหรือไฟดับ
  2. เหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกล: ระบบออฟกริดเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีสายส่งไฟฟ้า เช่น ชุมชนชนบทหรือบ้านในพื้นที่ที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง
  3. พลังงานสำรอง: ระบบแบตเตอรี่จะทำให้คุณมีพลังงานสำรองสำหรับใช้งานในกรณีที่ไม่มีแสงอาทิตย์หรือในช่วงที่ไฟฟ้าถูกใช้ในปริมาณมาก

ข้อเสียของโซล่าเซลล์ออฟกริด

  1. ค่าใช้จ่ายสูง: ระบบออฟกริดมักจะมีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องติดตั้งแบตเตอรี่สำรองที่มีราคาสูง และจำเป็นต้องมีขนาดที่เพียงพอสำหรับการเก็บพลังงาน
  2. การบำรุงรักษาแบตเตอรี่: แบตเตอรี่ในระบบออฟกริดต้องการการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องและอาจมีอายุการใช้งานที่จำกัด
  3. ความเสี่ยงในการขาดพลังงาน: หากพลังงานที่เก็บไว้ไม่เพียงพอ ผู้ใช้อาจต้องเผชิญกับปัญหาขาดไฟฟ้า โดยเฉพาะในช่วงที่มีเมฆหรือฝนเป็นเวลานาน

ความแตกต่างหลักระหว่างออนกริดและออฟกริด

คุณสมบัติ โซล่าเซลล์ออนกริด (On-Grid) โซล่าเซลล์ออฟกริด (Off-Grid)
การเชื่อมต่อ เชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้า ไม่เชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้า
การใช้แบตเตอรี่ ไม่จำเป็นต้องใช้ จำเป็นต้องใช้
การทำงานเมื่อไฟดับ ไม่ทำงาน ทำงานได้อิสระ
ความซับซ้อนในการติดตั้ง น้อยกว่า มากกว่า
ค่าใช้จ่าย ต่ำกว่า สูงกว่า

สรุป

การเลือกใช้ โซล่าเซลล์ออนกริด หรือ ออฟกริด ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ของผู้ใช้งาน หากคุณต้องการลดค่าไฟและยังสามารถพึ่งพาสายส่งไฟฟ้าได้ ระบบออนกริดอาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือไม่ต้องการพึ่งพาการไฟฟ้า ระบบออฟกริดอาจเหมาะสมมากกว่า ทั้งนี้ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษาด้วย

การทำความเข้าใจข้อแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเลือกระบบโซล่าเซลล์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากที่สุด

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับบทเกี่ยวกับโซล่าเซลล์ ที่เรานำมาแนะนำให้ทุกคนอ่านกัน

หากใครสนใจอยากอ่านความรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์สามารถดูเพิ่มเติมได้ ที่นี่

หรือหากใครสนใจติดตั้งโซล่าเซลล์บ้าน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @raay (https://lin.ee/GeNlzUq) หรือโทร : 064-239-4771