แผงโซลาร์เซลล์แบบ Half Cell ต่างกับ Full Cell อย่างไร?

แผงโซลาร์เซลล์แบบ Half Cell และ Full Cell ต่างก็ผลิตไฟฟ้าจากแสงแดด แต่มีวิธีการทำงานและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. โครงสร้าง

  • Full Cell: เซลล์โซล่าเซลล์ขนาดใหญ่ เรียงต่อกันเป็นแผงเดียว มีวงจรไฟฟ้าเพียงวงจรเดียว
  • Half Cell: เซลล์โซล่าเซลล์ขนาดเล็ก แบ่งเป็น 2 แผงย่อย แต่ละแผงย่อยมีวงจรไฟฟ้าแยกอิสระ

2. การทำงาน

  • Full Cell: เมื่อมีบางส่วนของแผงโดนบัง แรงดันไฟฟ้าทั้งแผงจะลดลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า
  • Half Cell: เมื่อมีบางส่วนของแผงโดนบัง เฉพาะแผงย่อยที่โดนบังเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แผงย่อยอื่นๆ ยังคงทำงานได้ปกติ ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าโดยรวมลดลงน้อยกว่า

3. ข้อดี

  • Half Cell:
    • ผลิตไฟฟ้าได้ดีกว่าในสภาวะที่มีเงาบัง
    • ความร้อนสะสมน้อยกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า
    • เสี่ยงต่อ Hot spot น้อยกว่า
    • รองรับแรงดันไฟฟ้าที่สูงกว่า
  • Full Cell:
    • ราคาถูกกว่า

4. ข้อเสีย

  • Half Cell:
    • ราคาแพงกว่า
    • มีจำนวนเซลล์มากกว่า ใช้พื้นที่มากกว่า
  • Full Cell:
    • ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าลดลงเมื่อมีเงาบัง
    • อายุการใช้งานสั้นกว่า
    • เสี่ยงต่อ Hot spot มากกว่า
    • รองรับแรงดันไฟฟ้าที่ต่ำกว่า

สรุป

แผงโซลาร์เซลล์แบบ Half Cell เหมาะกับสถานที่ที่มีเงาบังบ่อย ต้องการประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าสูง ต้องการอายุการใช้งานยาวนาน และมีงบประมาณเพียงพอ

แผงโซลาร์เซลล์แบบ Full Cell เหมาะกับสถานที่ที่ไม่มีเงาบัง ต้องการประหยัดงบประมาณ และไม่คำนึงถึงอายุการใช้งานมากนัก

ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณา

  • ประเภทของหลังคา
  • งบประมาณ
  • พื้นที่ติดตั้ง
  • ความต้องการใช้ไฟฟ้า

คำแนะนำ

ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแผงโซลาร์เซลล์แบบต่างๆ อย่างละเอียด เลือกซื้อจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจติดตั้ง

.

สนใจติดตั้งโซลาร์เซลล์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Line ID : https://lin.ee/GeNlzUq

โทร. 064-239-4771